Hilight
“ซุปตาร์ ไม่มีลิมิต เที่ยวเต็มร้อย”
กำหนดการเดินทางเดือน มีนาคม - มิถุนายน 2566
โดยสายการบิน แอร์เอเชียเอ็กซ์ (XJ)
รายละเอียดทัวร์
ราคาเริ่มต้น : 29888 | ประเทศ : ทัวร์ญี่ปุ่น | จำนวนวัน : 5 วัน 3 คืน | เดือนที่ออกเดินทาง : มีนาคม-มิถุนายน | สายการบิน : Air Asia X (XJ) |
วันที่ 1 - วันแรก ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย - ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น - เมืองโอซาก้า
09.00 น.
พร้อมกันที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ผู้โดยสารขาออก เคาน์เตอร์ F สายการบินแอร์เอเชีย เอ็กซ์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยให้การต้อนรับ และอำนวยความสะดวกในการเช็คอิน
12.20 น.
เหินฟ้าสู่ เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น โดยเที่ยวบินที่ XJ610
สายการบิน AIR ASIA X ใช้เครื่อง AIRBUS A330-300 จำนวน 377 ที่นั่ง จัดที่นั่งแบบ 3-3-3 (น้ำหนักกระเป๋า 20 กก./ท่าน หากต้องการซื้อน้ำหนักเพิ่ม ต้องเสียค่าใช้จ่าย)
บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง
20.05 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น นำท่านผ่านขั้นตอนการตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากร เรียบร้อยแล้ว (เวลาที่ญี่ปุ่น เร็วกว่าเมืองไทย 2 ชั่วโมง กรุณาปรับนาฬิกาของท่านเพื่อความสะดวกในการนัดหมายเวลา) ***สำคัญมาก!! ประเทศญี่ปุ่นไม่อนุญาตให้นำอาหารสด จำพวก เนื้อสัตว์ พืช ผัก ผลไม้ เข้าประเทศ หากฝ่าฝืนมีโทษปรับและจับ
พักที่ KARAKSA SPRING HOTEL KANSAI AIR GATE หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่ 2 - วันที่สอง เมืองเกียวโต – วัดเงินกินคะคุจิ – การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น - วัดคิโยมิสึเดระ - เมืองโอซาก้า – ช้อปปิ้งย่านชินไซบาชิ
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (1)
เดินทางสู่ เมืองเกียวโต (Kyoto) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.50 ชั่วโมง) เมืองหลวงเก่าของประเทศญี่ปุ่น มีชื่อเสียงระดับโลกในเรื่องของวัฒนธรรมที่ประณีต ศิลปะแบบญี่ปุ่นอย่างแท้จริง มีมนต์เสน่ห์แบบชนบทญี่ปุ่น ปัจจุบันเป็นเมืองท่องเที่ยวที่เป็นนิยมของคนทั่วโลก
จากนั้นสู่ วัดกินคะคุจิ (Ginkakuji Temple) หรือ วัดเงิน เป็นอีกหนึ่งในสถานที่ที่ขึ้นทะเบียนกับองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกโลกด้านวัฒนธรรม ซึ่งวัดกินคะคุจิเป็นวัดนิกายเซน ถูกสร้างขึ้นโดยโชกุนอชิกากะ โยชิมาสะ หลานชายของท่านโชกุน ที่สร้างวัดคินคะคุจิ (Kinkakuji Temple) หรือที่รู้จักกันอย่างกว้างขวางว่าวัดทองสำหรับอาคารของวัดเงินสร้างขึ้นในรูปแบบเดียวกัน เพียงแต่จะไม่ได้มีสีทอง เป็นอาคาร 2 ชั้น และมีนกฟินิกซ์อยู่บนหลังคาอาคารเช่นเดียวกัน อาณาบริเวณของวัดซึ่งอยู่บนเขายังคงสภาพความเป็นธรรมชาติป่าอย่างสมบูรณ์แบบ มีต้นไม้นานาพรรณ ในแบบสวนญี่ปุ่น เต็มไปด้วยความชุ่มชื้นเย็นสบาย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (2)
จากนั้นสัมผัสวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวญี่ปุ่น นั่นก็คือ การเรียนพิธีชงชาญี่ปุ่น (Japanese tea ceremony หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า Sado) โดยการชงชาตามแบบญี่ปุ่นนั้น มีขั้นตอนมากมาย เริ่มตั้งแต่การชงชา การรับชา และการดื่มชา ทุกขั้นตอนนั้นล้วนมีพิธี รายละเอียดที่บรรจงและสวยงามเป็นอย่างมาก พิธีชงชานี้ ไม่ใช่แค่รับชมอย่างเดียว ยังเปิดโอกาสให้ท่านได้มีส่วนร่วมในพิธีการชงชานี้อีกด้วย
นำท่านสู่ วัดคิโยมิสึเดระ (Kiyomizu-dera) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) แปลเป็นภาษาไทยว่า วัดน้ำใส เป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในเมืองเกียวโต สร้างขึ้นมาก่อนที่เกียวโตจะเป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่น เมื่อปี ค.ศ.778 นักท่องเที่ยวนิยมเดินทางมาเพื่อสักการะและขอพรจากองค์พระโพธิสัตว์เจ้าแม่กวนอิม 11 พักตร์ 1000 กร ซึ่งเป็นพระประธานของวัด นอกจากนี้ที่นี่ยังเป็นที่ประดิษฐานของเทพเอบิสึผู้เป็นเทพเจ้าแห่งความร่ำรวยมั่งคั่ง ตัววัดก่อสร้างด้วยไม้เกือบทั้งหมดแต่ที่น่าสนใจ ได้แก่ เสาที่ค้ำยันระเบียงวัดขนาดใหญ่ เสาดังกล่าวประกอบไปด้วยเสาไม้ขนาดใหญ่จำนวนร้อยกว่าต้น สร้างขึ้นด้วยไม้ขนาดใหญ่สูงจากพื้น 12 เมตร โดยไม่ใช้ตะปูแม้แต่ตัวเดียว อาคารไม้หลังนี้ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในปี 1994 จากองค์การยูเนสโกในฐานะส่วนหนึ่งของอนุสาวรีย์ทางประวัติศาสตร์เมืองเกียวโต
เดินทางสู่ เมืองโอซาก้า (Osaka) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.20 ชั่วโมง) เมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 และมีประชากรมากเป็นอันดับ 3 ของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในภาคคันไซบนเกาะฮนชู ประเทศญี่ปุ่น ปัจจุบันเมืองโอซาก้ามีสถานที่ท่องเที่ยวมากมาย มีแหล่งช้อปปิ้งยอดนิยม มีสวนสนุกขนาดใหญ่ ทั้งยังมีอาหารที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ทาโกะยากิ โอโคโนมิยากิ (พิซซ่าญี่ปุ่น) และ คุชิคัตสึ
จากนั้นอิสระช้อปปิ้ง ย่านชินไซบาชิ (Shinsaibashi) บริเวณแหล่งช้อปปิ้งแห่งนี้มีความยาวประมาณ 600 เมตร เต็มไปด้วยร้านค้าปลีก ร้านแฟรนไชส์ ร้านเครื่องสำอางค์ ร้านรองเท้า กระเป๋านาฬิกา ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขนม ร้านเสื้อผ้าสตรีทแบรนด์ทั้งญี่ปุ่นและต่างประเทศ เช่น Zara H&M Beans ABC Mart เป็นต้น เรียกว่ามีทุกอย่างที่ต้องการรวมกันอยู่บริเวณนี้ ใกล้กันท่านสามารถเดินไปยัง ย่านโดทงโบริ (Dotonbori) ย่านบันเทิงยามค่ำคืนตลอดแนวถนนเลียบคลองโดทงโบริ จากสะพานโดทงโบริบาชิไปจนถึงสะพานนิปปนบาชิ ไฮไลท์!!! ใครๆ ก็เช็คอิน ถ่ายภาพคู่ ป้ายกูลิโกะแมน หรือ ป้ายโดทงโบริกูลิโกะ (Dotonbori Glico Sign) เป็นป้ายไฟนีออนรูปนักกรีฑากำลังวิ่งอยู่บนลู่วิ่ง ซึ่งถูกติดตั้งมาตั้งแต่ ปี ค.ศ.1935 นอกจากนี้ยังมีอีกหนึ่งสัญลักษณ์สถานที่นัดพบกันหลง นั่นก็คือ ร้านปูคานิโดรากุ (Kani Doraku) ซึ่งมีปูยักษ์ขยับแขนและลูกตาได้อีกด้วย และห้ามพลาดสำหรับ ทาโกยากิ อาหารท้องถิ่นของชาวโอซาก้า ที่มาถึงถิ่นแล้วต้องลอง Original Taste รับรองไม่ผิดหวังแน่นอน
ค่ำ
อิสระรับประทานอาหารค่ำตามอัธยาศัย
พักที่ HOTEL SARASA SHINSAIBASHI หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่ 3 - วันที่สาม **อิสระใจกลางเมืองโอซาก้า หรือ เลือกซื้อ OPTION TOUR ตามอัธยาศัย** **ไม่มีรถบัสให้บริการ**
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (3)
***อิสระท่องเที่ยวเต็มวัน*** ไม่มีรถบัสให้บริการ แต่มีไกด์แนะนำการเดินทางให้ท่าน
ท่านสามารถสอบถามข้อมูลการเดินทางจากไกด์ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง หรือช้อปปิ้งในย่านการค้าอันทันสมัยของเมืองโอซาก้าศูนย์รวมวัยรุ่นแหล่งช้อบปิ้งชื่อดัง
แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองโอซาก้า (ไม่รวมค่าเดินทาง หรือค่าตั๋วรถไฟ)
• อะเมะริคามูระ (Amerikamura) เป็นแหล่งแฮงค์เอ้าของวัยรุ่นโอซาก้า คล้ายกับย่านฮาราจูกุของโตเกียว ย่านนี้ก็จะได้พบกับแฟชั่นการแต่งตัวของวัยรุ่น และวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่น มีบรรยากาศครึ้กครื้น ระหว่างทางมีร้านกาแฟ เสื้อผ้า และร้านขายของต่างๆมากมาย เป็นอีกย่านหนึ่งที่น่ามาเดินเล่น
• นัมบะพาร์ค (Namba Park) ศูนย์รวมความเจริญและสิ่งอำนวยความสะดวกครบวงจรทั้งห้างสรรพสินค้าชื่อดังอย่าง Namba CITY, Carnival Mall และ Takashimaya Osaka รวมถึงโรงแรมชื่อดัง Swissotel Nankai Osaka
• Den Den Town หรือ นิปปงบาชิ (Nipponbashi) ตั้งอยู่บนถนนซาไกสุจิเขตสะพานนิปปงบาชิ เป็นแหล่งรวมร้านค้ากว่า 300 ร้านจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับอิเล็กทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า รวมทั้งของเล่นและทุกอย่างที่เกี่ยวกับการ์ตูน อาทิ หนังสือการ์ตูน, แผ่น DVD, สินค้าคอสเพลย์, ของสะสมและของที่ระลึก เป็นต้น
• ย่านชินเซไก (Shinsekai) ที่แปลตรงตัวได้ว่า โลกใหม่ เป็นย่านแสงสียามค่ำคืนของเมืองโอซาก้า มีบรรยากาศแบบย้อนยุคสไตล์เรโทร เป็นแหล่งรวมร้านอาหารขึ้นชื่อของโอซาก้าอย่างคุชิคัตสึ ซึ่งเป็นอาหารเสียบไม้แล้วชุบแป้งทอด มีถนนแคบๆ ที่เรียกว่า จันจัน โยโกะโช (Jan Jan Yokocho) ที่เป็นแหล่งรวมร้านกินดื่มสำหรับคนญี่ปุ่น ร้านรวงต่างๆ จะเปิดไฟสีแสบสันเรียกแขกอย่างคึกคัก มีอาหาร มีขนมและกับแกล้มให้ลองชิมกันมากมาย ยังมีร้านขายของที่ระลีกให้เลือกช้อปปิ้งกันอีกหลายร้าน หลายคนที่ไปที่นี่จะพบเห็นหุ่นคล้ายลิงนั่งยิ้มตามมุมต่างๆ นั่นก็คือ บิลลิเคน (Billikan) หรือเทพแห่งโชคลาภนั่นเอง ไฮไลท์!!! หอคอยซึเทนคาคุ (Tsutenkaku) สัญลักษณ์ของย่านชินเซไก ซึ่งตั้งอยู่ตรงกลางย่านชินเซไก นั่นเอง
• ศาลเจ้าสุมิโยชิ (Sumiyoshi Taisha) ศาลเจ้าสุมิโยชิ เป็นหนึ่งในสถานที่เที่ยวโอซาก้าอันเก่าแก่ หรือ ที่รู้จักกันว่าสะพานโค้งสีแดงซึ่งมีความเป็นเอกลักษณ์และโดดเด่นในสายตาของ
นักท่องเที่ยวโดยศาลเจ้าแห่งนี้ถูกก่อตั้งขึ้นเมื่อปีค.ศ. 211 และมีการปรับปรุงตัวอาคารอีกครั้งในปีค.ศ. 1810 เพื่อใช้เป็นที่ประดิษฐานของเทพเจ้าคามิ หรือ เทพเจ้าคุ้มครองนักเดินทางและชาวเรือ จึงทำให้ประชาชนส่วนมากนิยมเดินทางมาเพื่อกราบไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ในวันขึ้นปีใหม่ อีกทั้งยังเดินทางมาเพื่อชื่นชมความสวยงามของสถาปัตยกรรมการตกแต่งภายในศาลเจ้าแห่งนี้อีกด้วย
ห้ามพลาด สวนสนุกระดับโลก (**ราคาไม่รวมค่าเข้า**)
อิสระให้ท่านเดินทางสู่ สวนสนุกระดับโลก ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studios Japan, USJ) เปิดเมื่อเดือนมีนาคม ปีค.ศ. 2001 เป็นสวนสนุกแห่งแรกของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ที่เปิดในเอเชีย
• ยูนิเวอร์ซัล สตูดิโอส์ เจแปน (Universal Studios Japan, USJ) เปิดเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2001 เป็นสวนสนุกแห่งแรกของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ ที่เปิดในเอเชีย ภายในมี ทั้งหมด 8 โซน:
• Hollywood
• New York
• San Francisco
• Jurassic Park
• Lagoon
• Waterworld
• Amity Village และ Universal Wonderland ผู้เข้าชมสามารถเพลิดเพลินไปกับเครื่องเล่นต่างๆ ตั้งแต่เครื่องเล่นสำหรับเด็กๆไปจนถึงรถไฟเหาะที่หวาดเสียวสุดๆ นอกจากนี้ยังมีหนัง 3 มิติ อย่างเช่น Spiderman, Back to the Future, Terminator 2, Jurassic Park และ Harry Potter ภายนอกสวนสนุกนั้น จะมี Universal City walk Osaka ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ ที่มีโรงแรม ร้านค้า ร้านอาคารจำนวนมาก รวมทั้งร้านที่ขายสินค้าของยูนิเวอร์แซล สตูดิโอ และของที่ระลึกของเมืองโอซาก้า และใกล้ๆกันก็ยังมีพิพิธภัณฑ์ทาโกะยากิ มีร้านทาโกะยากิชื่อดังของโอซาก้ามาเปิดให้ได้ลิ้มลองรสชาติดั้งเดิม ของกินขึ้นชื่อของโอซาก้า ที่ได้รับการโหวตจากชาวเมืองว่าเป็นสุดยอดร้านทาโกะยากิ รวมกันมาเปิดอยู่ที่แล้ว พิพิธภัณฑ์นี้ตั้งอยู่ที่ชั้น 4 ของห้างแห่งนี้
• และโซนใหม่ Super Nintendo World สัมผัสโลกแห่งมาริโอ้เก็บเห็ดในตำนาน ด้านในโซนนี้ มีเครื่องเล่นใหญ่สองอย่างคือ Mario Cart กับ Yoshi's Adventure และระหว่างทางจะมีมินิเกมสำหรับเด็กๆ ให้เล่นตลอด เช่น ยิงปืนเลเซอร์สะสมแต้ม ชู้ตบาสเก็ตบอลเก็บคะแนน ฯลฯ และยังมีร้านอาหารและร้านค้าที่จำหน่ายสินค้าของ Super Nintendo World โดยเฉพาะอีกด้วย
***อิสระรับประทานอาหารกลางวันและอาหารคํ่าตามอัธยาศัย***
ค่ำ
พักที่ HOTEL SARASA SHINSAIBASHI หรือเทียบเท่าระดับเดียวกัน
วันที่ 4 - วันที่สี่ เมืองโอซาก้า - ปราสาทโอซาก้า(ด้านนอก) – ช้อปปิ้งเอ็กซ์โปซิตี้ - เมืองนารา – วัดโทไดจิ - ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
เช้า
รับประทานอาหารเช้า ณ ห้องอาหารของโรงแรม (4)
เดินทางสู่ ปราสาทโอซาก้า (Osaka Castle) (ด้านนอก) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที) เป็นหนึ่งในแลนด์มาร์คสําคัญของเมืองโอซาก้า หอคอยปราสาทจะมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 8 ชั้น ตัวปราสาทถูกล้อมรอบด้วยกำแพงหินคอนกรีต, คูนํ้า และสวนนิชิโนมารุซึ่งอยู่ทางป้อมตะวักตก ความงดงามของปราสาท ถือว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมืองโอซาก้า ที่นักท่องเที่ยวทั่วโลกต่างให้ความสนใจที่จะมาเยือนและชมตลอดทั้งปี
อิสระให้ท่านเดินช้อปปิ้ง ณ เอ็กซ์โปซิตี้ (Expo City) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที) ศูนย์รวมความบันเทิงที่ยิ่งใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เอ็กซ์โปซิตี้เป็นส่วนหนึ่งของสวนสาธารณะที่สร้างขึ้นเพื่อระลึกถึงงานเวิลด์เอ็กซ์โป ที่จัดขึ้นเมื่อปีค.ศ. 1970 มีเนื้อที่ทั้งหมดราวๆ 172,000 ตารางเมตร ภายในพื้นที่แห่งนี้มีแหล่งความบันเทิงมากมาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ fusing the enjoyment of playing, learning, and discovering ท่านสามารถเพลิดเพลินกับกิจกรรมต่างๆ ทั้งช้อปปิ้ง กินข้าว หรือแม้แต่ถ่ายรูปได้ตามอัธยาศัย
เอ็กซ์โปซิตี้ ได้แบ่งออกเป็น 8 โซนด้วยกัน ดังนี้
1. NIFREL พิพิธภัณฑ์สัตว์นํ้า จัดแสดงสัตว์ต่าง ๆ ในรูปแบบการนำเสนองานศิลปะ และยังให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับสัตว์อย่างใกล้ชิด
2. Osaka English Village ชุมชนสําหรับคนรักภาษาอังกฤษ เปิดโอกาสให้ผู้เข้าชมได้เรียนรู้ภาษาอังกฤษในรูปแบบที่ไม่ซํ้าใคร ท่ามกลางบรรยากาศของเมืองต่าง ๆ จากทั่วทั้งอเมริกา
3. Pokemon Expogym สวนสนุกของโปเกมอนแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่จะทำให้คุณหลงใหลและผจญภัยไปกับการ์ตูนตัวโปรด
4. Orbi สถานที่แห่งการเรียนรู้ธรรมชาติ
5. Entertainmentfield สวนสนุกภายใต้คอนเซ็ปต์ Shaun the Sheep ซึ่งเป็นภาพยนตร์การ์ตูน
6. 109 Cinemas Osaka-Expocity โรงภาพยนตร์สุดทันสมัย
7. ANIPO สวนสนุกสุดน่ารัก ภายในมีชิงช้าสวรรค์ Redhorse Osaka wheel ซึ่งเป็นชิงช้าที่มีความสูงมากถึง 120 เมตร
8. Lalaport Expocity แหล่งช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์ต่างๆ มากกว่า 100 ร้าน พร้อมทั้งร้านอาหาร ร้านกาแฟ และอื่น ๆ อีกมากมาย
เที่ยง
รับประทานอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร (5)
เดินทางสู่ เมืองนารา (Nara) (ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง) เป็นเมืองหลวงของญี่ปุ่นตั้งแต่ช่วงเริ่มแรกของราชวงศ์ยามาโต้ (300-600) เมืองหลวงเก่าแก่แห่งนี้มีวัดและศาลเจ้ามากมายซึ่งบางแห่งได้รับการจดทะเบียนเป็นมรกดโลก นำท่านสู่ วัดโทไดจิ (Todaiji) วัดหลวงพ่อโตแห่งเมืองนารา หรือ ไดบุทสึ (Daibutsu of Nara) เป็นหนึ่งในวัดที่มีชื่อเสียงมากที่สุดและมีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของประเทศญี่ปุ่น ถูกสร้างขึ้นในปี 752 เป็นเหมือนศูนย์กลางของวัดทั้งหมดในประเทศและมีอิทธิพลเป็นอย่างมากในยุคนั้น เพื่อลดบทบาทและอิทธิพลของวัดต่อรัฐบาลลง จึงได้มีการย้ายเมืองหลวงจากนาราไปยังนากาโอกะในปี 784 ภายในเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่อโตหรือ ไดบุทสึเดน ซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีความสูงถึง 15 เมตร อีกจุดที่น่าสนใจและเป็นที่นิยมอย่าง
มากก็คือ เสาไม้ยักษ์ ซึ่งฐานขนาดรอบเสานี้มีขนาดเท่ากันรูจมูกของหลวงพ่อโต และด้านล่างของเสาจะเป็นช่องขนาดไม่ใหญ่มาก มีความเชื่อว่าหากใครสามารถรอดผ่านช่องนี้ไปได้ก็จะสามารถตรัสรู้ได้ในชาติหน้า
นำท่านเดินทางสู่ ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น
(ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1.15 ชั่วโมง)
21.20 น.
ออกเดินทางสู่ กรุงเทพฯ โดยสายการบิน แอร์เอเชีย เอ็กซ์ เที่ยวบินที่ XJ611
วันที่ 5 - วันที่ห้า ท่าอากาศยานนานาชาติคันไซ โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น - ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย
01.15 น.
เดินทางถึง ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯ ประเทศไทย โดยสวัสดิภาพ
พร้อมความประทับใจ
**สายการบินมีบริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง**