มหัศจรรย์...MYANMAR มัณฑะเลย์ สกายน์ อังวะ มิงกุน 3 วัน 2 คืน (BT-MMR03_PG)


พาคนรู้ใจไปกับเรา Public Holiday

Hilight

มัณฑะเลย์ สกายน์ อังวะ มิงกุน
ร่วมพิธีล้างพระพักตร์ พระมหามัยมุนี
ตักบาตรพระ วัดมหากันดายงค์
นั่งรถม้าชมเมือง

รายละเอียดทัวร์

ราคาเริ่มต้น : 10900 ประเทศ : ทัวร์พม่า จำนวนวัน : 3 วัน 2 คืน เดือนที่ออกเดินทาง : มีนาคม-มิถุนายน 2563 สายการบิน : Bangkok Airway (PG)

วันที่ 1 - กรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์-สกายน์-เจดีย์เก๊ามูดอว์-อังวะ-นั่งรถม้าชมเมือง-สกายน์ฮิลล์

10.00 น.

พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ ชั้น 4 ประตู 4 เคาท์เตอร์ F สายการบินบางกอกแอร์เวย์ Bangkok Airway (PG)

12.15 น.

ออกเดินทางสู่เมืองมัณฑะเลย์ โดยเที่ยวบิน PG 709 ** บริการอาหารบนเครื่อง**

13.40 น.

เดินทางถึง สนามบินมัณฑะเลย์ ประเทศพม่า ผ่านพิธีการตรวจคนเข้าเมืองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เดินทางไปยัง เมืองอังวะ นำเที่ยวชม เมืองอังวะ ด้วยรถม้า ซึ่งอังวะเป็นราชธานีอีกแห่งหนึ่งของพม่า ชมประตูเมืองทางทิศเหนือที่เรียกว่า คาวเซตั่นคา เป็นประตูที่ปัจจุบันมีความสมบูรณ์ที่สุด และใช้เป็นประตูสำหรับทำพิธีสระผมในเทศกาล ติ่นจ่าน(สงกราณต์) ของชาวพม่า ชม หอคอยเมืองอังวะ เป็นส่วนหนึ่งของพระราชวัง เพื่อใช้ สังเกตการณ์ข้าศึก สร้างขึ้นในปี ค.ศ.1822 หลังจากที่เกิดแผ่นดินไหวในปี ค.ศ.1838 หอแห่งนี้เกิดการเอียงตัว แต่ได้รับการบูรณะเป็นโครงสร้างเดิมนี้เป็นหนึ่งในรูปแบบสถาปัตยกรรมพม่าในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ชม วัดมหาอ่องเหม่ บอนซาน สร้างโดยพระนางเมนุมเหสีในพระเจ้าบาจีด่อ จากนั้นชม Barayar Monastery สร้างโดย พระเจ้าบายีดอ ปี ค.ศ.1834 ไม้สักที่มีขนาดใหญ่ สวยงามได้ซุ้มประตู บานประตูหรือหลังคา ซึ่งอาคารแห่งนี้มีเสาไม้สักรองรับน้ำหนักอยู่ถึง 267 ต้น

จากนั้น เดินทางสู่เมืองสกายน์ ศูนย์กลางแห่งพระพุทธศาสนาที่สำคัญ ท่านจะได้ชมทัศนียภาพของเมืองสกายน์ ลุ่มแม่น้ำอิระวดี เจดีย์จำนวนมากมายที่ตั้งเรียงรายอยู่บนภูเขา และริมฝั่งแม่น้ำ สกายน์เป็นราชธานีได้เพียง 59 ปี ภายหลังเกิดการชิงอำนาจกัน สุดท้ายพระเจ้าโดะมินพญา ได้รับชัยชนะจึงย้านเมืองหลวงใหม่มาตั้งที่ปากแม่น้ำมิดแง ตรงที่บรรจบกับแม่น้ำอิรวดี จนเป็นที่ตั้งของเมืองอังวะในเวลาต่อมา

จากนั้น ชม เจดีย์กวงมูดอร์หรือวัดเจดีย์นมนาง สร้างโดยพระเจ้าต้าหลู่ เมื่อปี ค.ศ.1636 ใช้เป็นที่ประดิษฐานพระเขี้ยวแก้วหรือพระทันตธาตุที่ได้มาจากลังกา เจดีย์นี้เป็นเจดีย์ทรงโอคว่ำแบบสิงหล หรือเจดีย์ทรงลังกา มีตำนานเล่าว่าองค์ระฆังทรงกลมผ่าครึ่งซีกนี้ ได้ต้นแบบมาจากถัน พระชายาคนโปรดของพระเจ้าต้าหลู่ องค์เจดีย์มีความสูง 46 เมตร เส้นรอบวงวัดได้ 274 เมตร และใช้อิฐในการก่อสร้างมากถึง 10,126,552 ก้อน แล้วชม Umin Thonse` Pagoda or 30 Caves Pagoda เจดีย์อูมินทงแส่ ภายในมีพระพุทธรูป 45 องค์ประดิษฐานเรียงกันเป็นครึ่งวงกลมจากนั้น ขึ้นเขาสกายน์ เป็นภูเขาขนาดกลาง มีจุดชมวิวที่คุณสามารถมองเห็นเจดีย์ต่างๆ ที่วางตัวอยู่ตามไหล่เขา มองเรื่อยไปจนสุด ถึงแม่น้ำอิระวดี เชิญถ่ายภาพไว้เป็นที่ระลึก ตามอัธยาศัย

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร

นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมระดับ 3 ดาว **HOTEL YI LINK MANDALAY หรือเทียบเท่า


วันที่ 2 - พระราชวังมัณฑะเลย์-พระราชวังไม้สักชเวนานจอง-วัดกุโสดอ-มิงกุน-ระฆังมิงกุน-เจดีย์มิงกุน-ทัชมาฮาล

เช้า

รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม

ชม พระราชวังมัณฑะเลย์ (Mandalay Palace) พระราชวังที่ส่วนใหญ่ก่อสร้างด้วยไม้สักที่สวยงามที่สุดแห่งหนึ่งของเอเชียในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา หรือ สงครามโลกครั้งที่ 2 วันที่ 20 มีนาคม 2488 เครื่องบินฝ่ายสัมพันธมิตรโดยกองทัพอังกฤษได้ทิ้งระเบิดจำนวนมากมายถล่มพระราชวังมัณฑะเลย์ของพม่าด้วยเหตุผลว่าพระราชวังนี้เป็นแหล่งซ่องสุมกำลังของกองทัพญี่ปุ่น ระราชวังมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นพระราชวังไม้สักก็ถูกไฟไหม้เผาราบเป็นหน้ากลองหลงเหลือก็แต่ป้อมปราการและคูนํ้ารอบพระราชวังที่ยังเป็นของดั่งเดิมอยู่ปัจจุปันพระราชวังที่เห็นอยู่เป็นพระราชวังที่รัฐบาลพม่าได้จำลองรูปแบบของพระราชวังของเก่าขึ้นมา

จากนั้น นำท่านไป พระราชวังไม้สักชเวนานจอง Golden Palace Monastry วังที่สร้างด้วยไม้สักทั้งหลัง งดงามตามแบบศิลปะพม่าแท้ๆ วิจิตรตระการด้วยลวดลายแกะสลักประณีตอ่อนช้อย ทั้งหลังคา บานประตูและหน้าต่าง โดยเน้นรายละเอียดเกี่ยวกับพุทธประวัติและทศชาติของพระพุทธเจ้า สร้างโดยพระเจ้ามินดงในปี พ.ศ. 2400 ซึ่งเป็นปีที่พระองค์ย้ายราชธานีจากอมรปุระมาอยู่ที่เมืองมัณฑะเลย์เพื่อเป็นตำหนักยามแปรพระราชฐาน แต่หลังจากที่พระองค์สิ้นพระชนม์ พระเจ้าธีบอ หรือ สีป่อ พระโอรสก็ทรงยกวังนี้ถวายเป็นวัดถือได้ว่าเป็นงานฝีมือที่ประณีตของช่างหลวงชาวมัณฑะเลย์อย่างแท้จริง นำท่านชม วัดกุโสดอ (Kuthodaw Pagoda) ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นสถานที่ทำการสังคายนาพระไตรปิฎกครั้งที่ 5 มีแผ่นศิลาจารึกพระไตรปิฎกทั้งหมด 84,000 พระธรรมขันธ์ และหนังสือกินเนสบุ๊คได้บันทึกไว้ว่า “หนังสือที่ใหญ่ที่สุดในโลก”

12.00 น.

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้น นำท่านสู่ เมืองมิงกุน โดยการล่องเรือไปตามแม่น้ำอิระวดีสู่มิงกุน หมู่บ้านมิงกุน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอมรปุระ แต่อยู่บนเกาะกลางลำน้ำอิรวดีและไปได้ด้วยเส้นทางเรือเท่านั้น ระหว่างทางจะได้เห็นหมู่บ้านอิรวดีที่มีลักษณะเป็น“กึ่งบ้านกึ่งแพ”เนื่องจากระดับน้ำอิรวดีในแต่ละฤดูกาลจะมีความแตกต่างกันมาก โดยเฉพาะฤดูน้ำหลากระดับน้ำจะขึ้นสูงกว่าฤดูแล้วกว่า 10 เมตร ชาวพม่าจึงนิยมสร้างบ้านกึ่งแพ คือถ้าน้ำขึ้นสูงก็ร่วมแรงกันยกบ้านขึ้นที่ดอนครั้นน้ำลงมากก็ยกบ้านมาตั้งใกล้น้ำเพื่อความสะดวกสบายในการใช้แม่น้ำในชีวิตประจำวัน

นำท่านชม เจดีย์มิงกุน ร่องรอยแห่งความทะเยอทะยานของพระเจ้าปดุง ด้วยภายหลังทรงเคลื่อนทัพไปตียะไข่ แล้วสามารถชะลอพระมหามัยมุนีมาประดิษฐานที่มัณฑะเลย์เป็นผลสำเร็จ จึงทรงฮึกเหิมที่จะกระทำการใหญ่ขึ้นและยากขึ้น ด้วยการทำสงครามแผ่ขยายไปรอบด้านพร้อมกับเกณฑ์แรงงานข้าทาสจำนวนมากก่อสร้างเจดีย์มิงกุนหรือเจดีย์จักรพรรดิเพื่อประดิษฐานพระทันตธาตุที่ได้จากพระเจ้ากรุงจีนโดยทรงมุ่งหวังให้ยิ่งใหญ่เทียบเท่ามหาเจดีย์ในสมัยพุกามและใหญ่โตโอฬารยิ่งกว่าพระปฐมเจดีย์ในสยาม ซึ่งในเวลานั้นถือเป็นเจดีย์ที่สูงที่สุดในสุวรรณภูมิส่งผลให้ข้าทาสชาวยะไข่หรืออาระกันจำนวน 50,000 คนหลบหนีการขดขี่แรงงานไปอยู่ในเขตเบงกอล เป็นดินแดนในอาณัติของอังกฤษแล้วทำการซ่องสุมกำลังเป็นกองโจรลอบโจมตีกองทัพพม่าอยู่เนืองๆโดยพม่ากล่าวหาว่าอังกฤษหนุนหลังกลายเป็นฉนวนให้เกิดสงครามอังกฤษ-พม่าอันเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้พม่าเสียเมืองในที่สุดอย่างไรก็ตาม งานก่อสร้างเจดีย์มิงกุนดำเนินไปได้เพียง 7 ปี พระเจ้าปดุงเสด็จสวรรคต ภายหลังทรงพ่ายแพ้ไทยในสงครามเก้าทัพ มหาเจดีย์อันยิ่งใหญ่ในพระราชหฤทัยของพระองค์จึงปรากฏเพียงแค่ฐานทว่าใหญ่โตมหึมาดั่งภูเขาอิฐที่มีความมั่นคงถึง 50 เมตร ซึ่งหากสร้างเสร็จตามแผนจะเป็นเจดีย์ที่ใหญ่ที่สุดและสูงที่สุดในโลก เพราะสูงถึง 152 เมตร ส่วนรอยแตกร้าวตรงกลางฐานเกิดจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวในปี ระฆังมิงกุนไม่ไกลจากฐานเจดีย์มิงกุนคือระฆังมิงกุนพระเจ้าปดุงโปรดฯให้สร้างโดยสำเร็จ เพื่ออุทิศทวายแด่มหาเจดีย์มิงกุนจึงต้องมีขนาดใหญ่คู่ควรกัน คือเป็นระฆังยักษ์ที่มีเส้นรอบวงถึง 10 เมตร สูง 3.70 เมตร น้ำหนัก 87 ตันเล่าขานกันว่า พระเจ้าปดุงทรงไม่ต้องการให้มีใครสร้างระฆังเลียนแบบจึงรับสั่งให้ประหารชีวิตนายช่างทันทีที่สร้างเสร็จ ปัจจุบันถือเป็นระฆังยักษ์ที่มีขนาดเล็กกว่าระฆังแห่งหนึ่งแห่งพระราชวังเครมลินในกรุงมอสโกเพียงใบเดียวทว่าระฆังเครมลินแตกร้าวไปแล้วชาวพม่าจึงภาคภูมิใจว่าระฆังมิงกุนเป็นระฆังยักษ์ที่ยังคงส่งเสียงก้องกังวานทั้งนี้เคยมีการทดสอบความกว้างใหญ่ของระฆังใบนี้ โดยให้เด็กตัวเล็กๆไปยืนรวมกันอยู่ใต้ระฆังได้ถึง 100 คน เจดีย์ชินพิวมิน (เมียะเต็งดาน) ประดิษฐานอยู่เหนือระฆังมิงกุนไม่ไกล ได้ชื่อว่าเป็นเจดีย์ที่สวยสง่ามากแห่งหนึ่งสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2359 โดยพระเจ้าบากะยีดอว์ พระราชนัดดาในพระเจ้าปดุง เพื่อเป็นอนุสรณ์แห่งความรักที่พระองค์มีต่อพระมหาเทวีชินพิวมิน ซึ่งถึงแก่พิราลัยก่อนเวลาอันควร จึงได้รับสมญานามว่า “ทัชมาฮาลแห่งลุ่มอิรวดี” หลังจากนั้นเดินทางกลับมายังมัณฑะเลย์

19.00 น.

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร เมนูพิเศษ กุ้งแม่น้ำเผา

นำท่านเข้าสู่ที่พัก โรงแรมระดับ 3 ดาว **HOTEL YI LINK MANDALAY หรือเทียบเท่า


วันที่ 3 - ร่วมพิธีล้างหน้าพระพักตร์พระมหามัยมุณี-มัณฑะเลย์-อมรปุระ-สะพานไม้อูเบ็ง-วัดมหากันดายง-กรุงเทพฯ

04.00 น.

จากนั้นนำท่านนมัสการ พระมหามัยมุนี อันเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์สูงสุด 1 ใน 5 แห่งของพม่า ถือเป็นต้นแบบพระพุทธรูปทองคำขนาดใหญ่ทรงเครื่องกษัตริย์ที่ได้รับการขนานนามว่า “พระพุทธรูปทองคำเนื้อนิ่ม” ที่พระเจ้ากรุงยะไข่ทรงหล่อขึ้นที่เมืองธรรมวดี เมื่อปี พ.ศ. 689 สูง 12 ฟุต 7 นิ้ว หุ้มด้วยทองคำเปลวหนา 2 นิ้ว ทรงเครื่องประดับทองปางมารวิชัย หน้าตักกว้าง 9 ฟุต ในปี พ.ศ. 2327 พระเจ้าปดุงได้สร้างวัดมหามุนี หรือวัดยะไข่ (วัดอาระกัน หรือวัดพยาจี) เพื่อประดิษฐานพระมหามัยมุนี และในปี พ.ศ.2422 สมัยพระเจ้า สีปอ ก่อน จะเสียเมืองพม่าให้อังกฤษได้เกิดไฟไหม้ วัดทองคำ จึงทำให้ทองคำเปลวที่ปิดพระละลายเก็บเนื้อทองได้นํ้าหนักถึง 700 บาท ต่อมาในปี พ.ศ.2426 ชาวพม่าได้เรี่ยไรเงินเพื่อบูรณะวัดขึ้นใหม่มีขนาดใหญ่กว่าเดิมโดยสายการออกแบบของช่างชาวอิตาลีจึงนับได้ว่าเป็นวัดที่สร้างใหม่ที่สุดแต่ประดิษฐานพระพุทธรูปเก่าแก่ที่สุดในเมืองพม่า โดยรอบ ๆ ระเบียงเจดีย์ยังมีโบราณวัตถุที่นำไปจากกรุงศรีอยุธยาเมื่อครั้งกรุงแตกครั้งที่ 1 พร้อมทั้ง เชิญทุกท่านร่วมทำบุญบูรณวัดกุสินารา ซึ่งมีอายุหลายร้อยปี ประดิษฐานพระพุทธไสยาสน์ สวยงามมากจากนั้นกลับโรงแรม

07.00 น.

รับประทานอาหารเช้า ที่ห้องอาหารของโรงแรม

เดินทางเข้าสู่ตัวเมือง อมรปุระ (Amrapura) เมืองแห่งผู้เป็นอมตะซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของเมืองมัณฑะเลย์ซึ่งเป็นราชธานีเพียง 76 ปี ท่านจะได้ชมทัศนียภาพของเมืองสกาย ลุ่มแม่นํ้าอิระวดี เจดีย์จำนวนมากมายที่ตั้งเรียงรายอยู่บนภูเขา และริมฝั่งแม่นํ้า ชมสะพานไม้อูเบ็ง สะพานไม้ที่ยาวที่สุดในโลกโดยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ชื่อว่าเสาอู เสาของสะพานใช้ไม้สักถึง1,208 ต้นซึ่งมีอายุกว่า 200 ปีทอดข้าม ทะเลสาบคองตามัน (Toungthamon) ไปสู่วัดจอกตอจีซึ่งมีเจดีย์ที่สร้างตามแบบวัดอนันดาแห่งพุกาม

จากนั้น นำท่านชมการตักบาตรพระสงฆ์ 1,400 รูป ณ วัดมหากันดายงค์ ซึ่งเป็นวัดใหญ่ที่สุดของพม่าที่เมืองอมรปุระ ซึ่งในช่วงเพลจะมีภิกษุสงฆ์นับร้อยรูปเดินเรียงแถวด้วยอาการสำรวม ในทุกๆวันเวลา 10.30 น.จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก มาร่วมชื่นชมการจัดเตรียมตักบาตร ถวายภัตตาหารเพลให้แก่พระสงฆ์ และเณรที่มาศึกษาพระธรรมวินัยที่วัดมหากันดายน ในเมืองมัณฑะเลย์ ที่นี่มีพระสงฆ์ และเณรจำวัดอยู่เกือบ 1,400 รูป

ไฟล์ทบิน PG710

14.15 น ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG 710 ** บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง **

16.40 น. เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ

12.00 น. (ไฟล์ทบิน PG714 )

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร

จากนั้น แวะสักการะ เจดีย์หยก ซึ่งเป็นเจดีย์หยกที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นเจดีย์ประดับประดาด้วยหยกทั้งภายในและภายนอกรวมทั้งหยกก้อนใหญ่ที่สุดอยู่ใต้ยอดฉัตร เป็นเจดีย์ที่สวยอีกแห่งหนึ่งของเมืองมัณฑะเลย์

19.15 น.

ออกเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดย สายการบินบางกอกแอร์เวย์ เที่ยวบินที่ PG 714 ** บริการอาหารและเครื่องดื่มบนเครื่อง **

21.40 น.

เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ กรุงเทพฯโดยสวัสดิภาพ

**เวลาบินบางพีเรียดอาจจะไม่ตรงกัน รบกวนเช็คเวลาบินก่อนเดินทางตามตารางท้ายรายการค่ะ**


อัตราค่าบริการนี้รวม ( Tour Price Include )

ตั๋วเครื่องบินชั้นทัศนาจรไป -กลับพร้อมกรุ๊ป อยู่ต่อต้องเสียค่าเปลี่ยนแปลงตั๋ว

ที่พักโรงแรมตามรายการ 2 คืน พักห้องละ 2-3 ท่าน (กรณีมาไม่ครบคู่และไม่ต้องการเพิ่มเงินพักห้องเดี่ยว)

อาหารตามรายการระบุ(สงวนสิทธิในการสลับมื้อหรือเปลี่ยนแปลงเมนูอาหารตามสถานการณ์) 

ค่าเข้าชมสถานที่ตามรายการระบุ

ค่าระวางน้ำหนักกระเป๋าไม่เกิน 20 กก.ต่อ 1 ใบ

ค่ารถโค้ชรับ-ส่งสถานที่ท่องเที่ยวตามรายการระบุ

ค่าไกด์ท้องถิ่นและหัวหน้าทัวร์นำเที่ยวตามรายการ

ประกันอุบัติเหตุวงเงิน1,000,000 บาท (เป็นไปเงื่อนไขตามกรมธรรม์) เงื่อนไขประกันการเดินทางค่าประกันอุบัติเหตุและค่ารักษาพยาบาล คุ้มครองเฉพาะกรณีที่ได้รับอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง ไม่คุ้มครองถึงการสูญเสียทรัพย์สินส่วนตัวและไม่คุ้มครองโรคประจำตัวของผู้เดินทาง

ภาษีน้ำมันและภาษีตั๋วทุกชนิด(สงวนสิทธิเก็บเพิ่มหากสายการบินปรับขึ้นก่อนวันเดินทาง)

ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%และภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม ( Tour Price Excluded )

ค่าทำหนังสือเดินทางไทย และค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ถือพาสปอร์ตต่างชาติ

ค่าใช้จ่ายส่วนตัว อาทิ อาหารและเครื่องดื่มที่สั่งเพิ่มพิเศษ,โทรศัพท์-โทรสาร,อินเตอร์เน็ต,มินิบาร์,ซักรีดที่ไม่ได้ระบุไว้ในรายการ

ค่าใช้จ่ายอันเกิดจากความล่าช้าของสายการบิน,อุบัติภัยทางธรรมชาติ,การประท้วง,การจลาจล,การนัดหยุดงาน,การถูกปฏิเสธไม่ให้ออกและเข้าเมืองจากเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและเจ้าหน้าที่กรมแรงงานทั้งที่เมืองไทยและต่างประเทศซึ่งอยู่นอกเหนือความควบคุมของบริษัทฯ

ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น,คนขับรถ,ผู้ช่วยคนขับรถ600บาท/ทริป/ลูกทัวร์ 1 ท่าน(บังคับตามระเบียบธรรมเนียมของประเทศค่ะ)

ค่าทิปหัวหน้าทัวร์ตามสินน้ำใจของทุกท่านค่ะ(ไม่รวมในทิปไกด์ท้องถิ่นและคนขับรถนะคะแต่ไม่บังคับทิปค่ะ)

เงื่อนไขการสำรองที่นั่งการชำระเงิน ( Condition of Payment )

กรุณาจองทัวร์ล่วงหน้า ก่อนการเดินทาง พร้อมชำระมัดจำ 10,000 บาท ส่วนที่เหลือชำระทันทีก่อนการเดินทางไม่น้อยกว่า 20 วัน มิฉะนั้นถือว่าท่านยกเลิกการเดินทางโดยอัตโนมัติ (ช่วงเทศกาลกรุณาชำระก่อนเดินทาง 30 วัน)

กรุณาชำระค่าทัวร์เต็มจำนวน ในกรณีที่ค่าทัวร์มีราคา ต่ำกว่า 10,000 บาท

เงื่อนไขการเปลี่ยนแปลง/ยกเลิก ( Cancellation and Amendment )

กรณียกเลิก (จอยกรุ๊ป):

ยกเลิกการเดินทางก่อนการเดินทาง 45 วัน บริษัทฯ จะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด ยกเว้นในกรณีวันหยุดเทศกาล, วันหยุดนักขัตฤกษ์ ยกเลิกก่อนการเดินทาง 60 วัน จะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด

ยกเลิกน้อยกว่า 45 วัน ก่อนการเดินทาง หักค่าทัวร์ 50%จากราคาขาย และยึดเงินมัดจำทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

ยกเลิกน้อยกว่า 30 วัน ก่อนการเดินทาง บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์เก็บเงินค่าทัวร์ทั้งหมดไม่ว่ากรณีใด ๆ ทั้งสิ้น

กรณียกเลิก (ตัดกรุ๊ป):

ยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางต้องทำก่อนภายใน 60 วัน บริษัทฯจะคืนเงินค่ามัดจำให้ทั้งหมด ยกเว้นในกรณีวันหยุด เทศกาล,วันหยุกนักขัตฤกษ์ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การคืนเงินมัดจำโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น

ยกเลิกการเดินทางภายใน 60 วัน ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์การคืนเงินมัดจำโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น

ยกเลิกการเดินทางหลังชำระเต็มจำนวนทางบริษัทฯขอสงวนสิทธิ์เก็บเงินค่าทัวร์ทั้งหมดโดยไม่มีเงื่อนไขใดๆทั้งสิ้น

กรณีเจ็บป่วย :

กรณีเจ็บป่วย จนไม่สามารถเดินทางได้ ซึ่งจะต้องมีใบรับรองแพทย์จากโรงพยาบาลรับรอง บริษัทฯจะทำการเลื่อน การเดินทางของท่านไปยังคณะต่อไป แต่ทั้งนี้ท่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถยกเลิกหรือเลื่อนการเดินทางได้ตามความเป็นจริง

ในกรณีเจ็บป่วยกะทันหันก่อนล่วงหน้าเพียง 7 วันทำการ ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการคืนเงินทุกกรณี

เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ ( Other Conditions Restrictions )

บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการเก็บค่าใช้จ่ายทั้งหมด กรณีท่านยกเลิกการเดินทางและมีผลทำให้คณะเดินทางไม่ครบตามจำนวนที่บริษัทฯ กำหนดไว้ (15 ท่านขึ้นไป) เนื่องจากเกิดความเสียหายต่อทางบริษัทฯ และผู้เดินทางอื่นที่เดินทางในคณะเดียวกัน บริษัทต้องนำไปชำระค่าเสียหายต่าง ๆ ที่เกิดจากการยกเลิกของท่าน

คณะผู้เดินทางจำนวน 15 ท่านขึ้นไป จึงออกเดินทางในกรณีที่มีผู้เดินทางไม่ถึง 15 ท่าน ขอสงวนสิทธิ์เลื่อนวันเดินทาง หรือ ยกเลิกการเดินทาง โดยทางบริษัทจะแจ้งให้ท่านทราบล่วงหน้า 10 วันก่อนการเดินทาง

กรณีที่ท่านต้องออกตั๋วภายใน เช่น (ตั๋วเครื่องบิน, ตั๋วรถทัวร์, ตั๋วรถไฟ) กรุณาสอบถามที่เจ้าหน้าที่ทุกครั้งก่อนทำการออกตั๋ว เนื่องจากสายการบินอาจมีการปรับเปลี่ยนไฟล์ทบิน หรือเวลาบิน โดยไม่ได้แจ้งให้ทราบล่วงหน้า     ทางบริษัทฯ จะไม่รับผิดชอบใด ๆ ในกรณี ถ้าท่านออกตั๋วภายในโดยไม่แจ้งให้ทราบและหากไฟล์ทบินมีการปรับเปลี่ยนเวลาบินเพราะถือว่าท่านยอมรับในเงื่อนไขดังกล่าว

กรณีใช้หนังสือเดินทางราชการ (เล่มน้ำเงิน) เดินทางเพื่อการท่องเที่ยวกับคณะทัวร์ หากท่านถูกปฏิเสธในการเข้า – ออกประเทศใด ๆ ก็ตาม ทางบริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ไม่คืนค่าทัวร์และรับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น



วันที่ 1
กรุงเทพฯ-มัณฑะเลย์-สกายน์-เจดีย์เก๊ามูดอว์-อังวะ-นั่งรถม้าชมเมือง-สกายน์ฮิลล์
วันที่ 2
พระราชวังมัณฑะเลย์-พระราชวังไม้สักชเวนานจอง-วัดกุโสดอ-มิงกุน-ระฆังมิงกุน-เจดีย์มิงกุน-ทัชมาฮาล
วันที่ 3
ร่วมพิธีล้างหน้าพระพักตร์พระมหามัยมุณี-มัณฑะเลย์-อมรปุระ-สะพานไม้อูเบ็ง-วัดมหากันดายง-กรุงเทพฯ