มนต์เสน่ห์...เส้นทางสายไหม 7 วัน 6 คืน


พาคนรู้ใจไปกับเรา Public Holiday

Hilight

- ทูรูฟาน...เมืองโอเอซีสแห่งเส้นทางสายไหม

- เขาเปลวเพลิง...ฮั่วเยี่ยนซาน ภูเขาหินแดงหนึ่งในฉากนวนิยายดัง “ไซอิ๋ว”

- ตุนหวง...นครโบราณที่มีความสำคัญที่สุดแห่งเส้นทางสายไหม และมรดกโลกวัดถ้ำโม่เกาคู ชมความงามเนินทรายหมิงซาซาน สระน้ำเสี้ยวพระจันทร์

- ภูเขาสายรุ้งจางเย่...มรดกโลกทางธรรมชาติที่มหัศจรรย์ดังเนรมิต

- หลานโจว...สะพานเหล็กจงซาน “หวงเหอตี้อี้เฉียว” สะพานข้ามแม่น้ำแยงซีเกียงแห่งแรกของจีนสร้างในสมัยราชวงศ์หมิง

รายละเอียดทัวร์

ราคาเริ่มต้น : 39999 ประเทศ : ทัวร์จีน จำนวนวัน : 7 วัน 6 คืน เดือนที่ออกเดินทาง : 20 – 26 ส.ค, 03-09 ก.ย. 62 สายการบิน : Shanghai Airline (FM)

วันที่ 1 - กรุงเทพฯ – เซี่ยงไฮ้ – อูรูมูฉี

07.00

พร้อมกันที่ สนามบินสุวรรณภูมิ อาคารผู้โดยสารขาออกชั้น 4 ประตู 9 เคาน์เตอร์ U สายการบินเซี่ยงไฮ้แอร์ไลน์ (FM) โดยมีเจ้าหน้าที่ของบริษัทฯ คอยต้อนรับและอำนวยความสะดวกแก่ท่าน

09.50

ออกเดินทางสู่ เซี่ยงไฮ้ โดยเที่ยวบินที่ FM 842 *บริการอาหารและเครื่องดื่ม

15.45

ถึง ท่าอากาศยานเมืองเซี่ยงไฮ้ *แวะเปลี่ยนเครื่อง

17.55

ออกเดินทางโดยเที่ยวบินที่ FM 9221 *บริการอาหารบนเครื่อง

00.50

เดินทางถึงเมืองอูรูมูฉี มณฑลซินเจียง ตั้งอยู่ทางภาคตะวันตกของจีน เป็นเขตปกครองตัวเองชนกลุ่มน้อยมุสลิม อุยกูร์ มีพื้นที่กว้างใหญ่ แห้งแล้งแต่อุดมด้วยทรัพยากร นับเป็นพื้นที่ปกครองที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีพรมแดนติดต่อกับ 8 ประเทศ และมีชายแดนยาวถึง 5,600 กิโลเมตร หลังผ่านพิธีตรวจคนเข้าเมืองแล้ว นำท่านเข้าที่พักโรงแรม พักที่อูรูมูฉี URMQ HOTEL หรือเทียบเท่า


วันที่ 2 - อูรูมูฉี – ทูรูฟาน – เขาเปลวเพลิง – ระบบชลประทานข่านเอ่อจิง – เมืองโบราณเจียวเหอ

เช้า

บริการอาหารเช้า ที่ โรงแรม หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองทูรูฟาน เมืองโอเอซีสบนเส้นทางสายไหม ซึ่งเป็นเมืองของ 3 สิ่ง ที่เป็นที่สุดในมณฑลซินเจียง (1. ต่ำที่สุดในจีน ต่ำจากระดับน้ำทะเล 154.43 เมตร 2. ร้อนและแห้งที่สุดในจีนอุณหภูมิเฉลี่ย 35 องศาเซลเซียส เคยร้อสูงสุดถึง 49 องศาเซลเซียส 3. ลมแรงที่สุด จึงมีโรงงานไฟฟ้าพลังลมหลายแห่ง) ทูรูฟานเป็นเมืองพื้นที่เป็นแอ่งกระทะ ประกอบกับมีภูเขาล้อมรอบแสงอาทิตย์ส่องมาก ฝนตกน้อย อากาศแห้งแล้งตลอดทั้งปี จึงได้รับสมญานามว่า แดนไฟ แต่เนื่องจากเอกลักษณ์พิเศษของดินฟ้าอากาศนี้ ทำให้ทูรูฟาน เหมาะแก่การปลูกองุ่นและแคนตาลูป ชมอุทยานกลางแจ้งกังหันลม นับหมื่นเรียงรายกัน ชาวบ้านที่นี่ได้ใช้ประโยชน์จากกังหันลม โดยใช้ผลิตกระแสไฟฟ้าใช้ภายในเมือง นำท่านชมภูเขาเพลิง “ฮั่วเยี่ยนซาน” สถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อของทูรูฟาน สถานแห่งนี้ถูกกล่าวในนวนิยายไซอิ๋ว ตอนที่ซุนหงอคงไปยืมพัดกายสิทธิ์ จากองค์หญิงพัดเหล็ก มาดับไฟในภูเขาเพลิงแห่งนี้ เพื่อให้พระถังซำจั๋ง เดินทางผ่านไปอัญเชิญพระไตรปิฎกที่อินเดีย ภูเขาเพลิงแห่งนี้ลักษณะเป็นเขาหินสีแดงทั้งลูก ไม่มีต้นไม้ใบหญ้า มองแต่ไกลจะเห็นภูเขาทั้งลูกคล้ายไฟกำลังลุกไหม้

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านชม ระบบชลประทานข่านเอ่อจิง ระบบชลประทานที่สืบทอดมาจากเปอร์เซีย มีโครงสร้างจากการขุดอุโมงค์ใต้ดินไปยัง จุดต้นกำเนิดน้ำเช่น ตาน้ำ หรือ เทือกน้ำแข็งใต้ภูเขาเทียนซาน ตลอดภายในอุโมงค์จะมีการดัดแปลงทั้งการลดหลั่น และการปรับความดัน ซึ่งชาวบ้านในยุคสมัยกว่า 2,000 ปีก่อนสามารถคิดค้นได้โดยไม่ต้องใช้ทักษะทางวิศวกรรม ท่านสามารถพบระบบชลประทานเช่นนี้ได้ทั่วภูมิภาคทางตะวันตกของเอเชีย โดยเฉพาะประเทศที่รับอิทธิพลจากเปอร์เซีย ในบางจุดความยาวของอุโมงค์อาจมีนับร้อยกิโลเมตร จากนั้นนำท่านชม เมืองโบราณเจียวเหอ อดีตเป็นเมืองหลวงในยุคอาณาจักรเชอซื่อ สมัยศตวรรษที่ 6 เป็นเมืองที่ไม่มีกำแพงเมือง เพราะตั้งอยู่สูงกว่าระดับแม่น้ำ เมืองนี้มีซากปรักของสิ่งก่อสร้างโบราณอยู่มากมาย ล้วนแล้วแต่ทำด้วยดินเหนียว หากเดินอยู่ชั้นนอกของเมือง จะไม่สามารถเห็นสภาพในเมือง แต่คนที่ยืนอยู่ในเมือง จะสามารถมองเห็นสภาพทั้งในและนอกเมืองได้หมด ในปี ค.ศ. 1961 รัฐบาลจีนประกาศให้เมืองโบราณเจียวเหอ เป็นโบราณสถานระดับชาติ และได้ชื่อว่าเป็น "ซากโบราณสถานที่สวยงามสมบูรณ์แบบที่สุดในโลก"

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ที่พักโรงแรม

พักที่ทูรูฟาน FRIENDSHIP PEAK HOLIDAY HOTEL หรือเทียบเท่า 4*


วันที่ 3 - ทูรูฟาน – ตุนหวง (นั่งรถไฟความเร็วสูง) – เนินทรายหมิงซาซาน (รวมรถอุทยาน) - สระน้ำเสี้ยวพระจันทร์ – ช้อปปิ้งตลาดกลางคืนซาโจว

เช้า

บริการอาหารเช้า ที่ โรงแรม หลังอาหารเดินทางไปยังสถานีรถไฟ เพื่อนั่งรถไฟความเร็วสูงไปยัง เมืองตุนหวง ( ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงและสถานีรถไฟ ไม่มีบันไดเลื่อน) หมายเหตุ การนั่งรถไฟความเร็วสูงที่ประเทศจีน มีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เข้มข้น ห้ามให้มีการพกพาวัตถุมีคม หรือ วัตถุไวไฟ (กระป๋องเสปรย์ที่มีสัญลักษณ์ไวไฟข้างกระป๋อง) ขึ้นบนรถไฟอย่างเด็ดขาด หากมีการตรวจพบ เจ้าหน้าที่จะทำการยึดโดยไม่มีข้อยกเว้น

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเที่ยว เมืองตุนหวง โอเอซีสบนเส้นทางสายไหม เป็นเมืองชายแดนมณฑลกานซู่ที่ติดกับเขตปกครองตนเองชนชาติซินเกียง ชม เนินทรายร้องไห้หมิง ซาซาน เป็นเนินทรายสูงพอสมควร เมื่อท่านขึ้นถึงยอดเขาท่านสามารถไถลลื่นลงมาสู่เชิงเขาด้านล่าง (SAND DUNE) หากโอกาสเหมาะท่านอาจได้ยินเสียงลมสะท้อนเป็นเสียงคล้าย การลั่นกลองรบ เสียงม้าร้อง เสียงสู้รบและเสียงคนร้อง ซึ่งตามตำนานเล่าว่าเคยมีกองทัพถูกพายุทรายพัดกระหน่ำและถูกฝังทั้งเป็นทั้งกองทัพอยู่ใต้ภูเขาลูกนี้ ดังนั้นเมื่อท่านลื่นไถลลงมาจากยอดเนินจึงอาจมีเสียงประหลาดเกิดขึ้น นำท่านชม สระน้ำวงพระจันทร์ บ่อน้ำผุดหรือ โอเอซิส ที่ไม่เคยเหือดแห้งแม้จะอยู่กลางทะเลทรายทั้งที่มีความลึกเฉลี่ยเพียง 6 เมตรเท่านั้น ( ท่านสามารถเลือกขี่อูฐได้ ติดต่อสอบถามราคาที่ไกด์ท้องถิ่น )

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านสู่ ตลาดซาโจว หรือไนท์มาร์เกตแห่งตุนหวง ตลาดกลางคืนที่ใหญ่และมีของให้เลือกชมทั้งของกิน ผลไม้ขึ้นชื่อต่างๆ ของมณฑลกานซู รวมถึงสินค้าของที่ระลึกต่างๆ ซึ่งมีทั้งหินเครื่องประดับต่างๆ, เครื่องดนตรี หรือสิ่งของที่เป็นเอกลักษณ์โดดเด่นของประเทศจีน อาทิ น้ำเต้าที่ระลึก หรือภาพวาดจีน และ ฯลฯ สมควรแก่เวลานำท่านกลับที่พัก
พักที่ตุนหวง LIDU INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่า


วันที่ 4 - ถ้ำโมเกาคู (รวมรถอุทยาน) – เจียยี่กวน – จิ่วฉวน

เช้า

บริการอาหารเช้า ที่ โรงแรม หลังอาหารนำท่านสู่ ถ้ำโมเกาคู มรดกโลกที่ยิ่งใหญ่อีกแห่งหนึ่งของโลก “ เป็นถ้ำที่มีคูหาใหญ่น้อยถึง 495 คูหา มีภาพวาดสีบนผนังสวยงามมี รูปแกะสลักพระพุทธรูปและองค์เจ้าแม่กวนอิม ปัจจุบันเปิดให้ชมเพียง 70 คูหาเท่านั้นในคูหาต้นๆ เป็นผลงานการบุกเบิกของพระสงฆ์เล่อจุนในปี ค.ศ. 366 ส่วนคูหาสุดท้ายขุดเมื่อยุคที่มองโกลมีชัยชนะเหนืออาณาจักรจีนใน ปี ค.ศ. 1277 ดั้งนั้นปฎิมากรรมหรือจิตรกรรมที่ท่านจะได้ชมที่ถ้ำโมเกาแห่งนี้เกิดจากความเพียรพยายามของจิตรกรและช่างหลากยุคหลายสมัยตลอดช่วงประวัติศาสตร์ที่นับเนื่องยาวนานเกือบ 1,000 ปี

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหารเดินทางสู่ เมืองเจียอวี้กวน เจียอี้กวน เป็นซุ้มประตูด่านสุดท้ายของกำแพงเมืองจีน จุดด่านตะวันตก ประกอบด้วยกำแพง ซุ้มประตู กำแพงเมือง ด่านปราการ ซึ่งสร้างด้วยวัตถุดิบในท้องถิ่น เนื่องด้วยฟืนไฟหายากในทะเลทราย จึงทำด้วยดินเหนียวและทรายที่หาง่าย โดยนำดินมาคั่วฆ่าเมล็ดพืช ผสมปูนขาว ข้าวเหนียว น้ำตาลและตำอัดแน่นเป็นชั้นๆ จนเป็นกำแพงที่ทนทานแข็งแรง ซุ้มประตูและกำแพงสร้างมาแล้วนับพันปี บนตัวกำแพงไม่มีต้นหญ้างอกเลย ด่านประตูเจียอี้กวนเป็นปราการสำคัญสำหรับเส้นทางสายไหม เดินทางสู่ เมืองจิ่วฉวน เดิมชื่อซูโจวเป็นเมืองระดับจังหวัดในเขตตะวันตกเฉียงเหนือของมณฑลกานซูในสาธารณรัฐประชาชนจีน มีพื้นที่กว้างกว่า 600 กม. จากตะวันออกไปตะวันตกมีพื้นที่ 191,342 ตร.กน. ถึงแม้ว่าพื้นที่ที่สร้างขึ้นส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในเขตซูโจว มีประชากร 962,000 คนในปี 2002

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเข้าที่พักโรงแรม

พักที่จิ่วฉวน JIUGANG HOTEL หรือเทียบเท่า 4*


วันที่ 5 - จิ่วฉวน – กำแพงเมืองจีนด่านเจียยี่กวน – จางเย่ – ภูเขาสายรุ้ง (รวมรถอุทยาน)

เช้า

บริการอาหารเช้า ที่ โรงแรม หลังอาหารนำท่านสู่ กำแพงเจียอี้กวน ด่านสุดท้ายของกำแพงเมืองจีน อยู่ทางตะวันตกที่อยู่ไกลที่สุดของจีนได้ถูกผนวกไว้ในปีค.ศ. 1372 อยู่ห่างไป 17 ไมล์ ทางตะวันตกของปราการแห่งนี้สูง 5817 ฟุต (1,773 เมตร) เหนือระดับน้ำทะเล และสร้างแล้วเสร็จภายหลังสถาปนาราชวงศ์หมิง ลานจัตุรัสด้านในมีกำแพงรายล้อมและมีประตูกำแพง 2 ประตู ทางส่วนบนของกำแพงที่สูง 33 ฟุต (10 เมตร) ยาว 2,100 ฟุต(640 เมตร) เป็นที่ตั้งของหอระวังภัย ซึ่งสร้างขึ้นในราวปลายราชวงศ์หมิง ถึงต้นราชวงศ์ชิง (กลางศตวรรษที่ 17 ) ตัวกำแพงได้รับการบูรณะซ่อมแซมครั้งแรกประมาณปี ค.ศ. 1507 ครั้งที่สองในสมัยชิง และอีกครั้งเมื่อไม่นานมานี้ประตูทางใต้ (ซึ่งมุ่งสู่เมืองเจียยู่กวน) มีลักษณะเป็นโงซุ้มสูง ทางด้านขวามือของประตูเป็นที่นั่งชมละครของผู้ทรงฐานันดรศักดิ์ ด้านหนึ่งทอดไปทางตะวันตกเฉียงใต้สู่เทือกเขาชิเหลียนซาน และอีกด้านทอดไปไปทางเหนือสู่เทือกเขาเป่ยซาน สิ่งก่อสร้างที่ยิ่งใหญ่นี้เห็นได้ชัด หากเดินทางเข้าจากทางทิศตะวันตก อนุสาวรีย์ด้านนอกของประตูตะวันตกมีคำจารึกว่า “ป้อมปราการที่แข็งแรงที่สุดในโลก” อนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นในปีที่ 14 ในรัชสมัยจักรพรรดิเฉียนหลง หรือ ค.ศ.1809 นั่นเอง ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาที่มีความกว้างเพียง 15 เมตรนับเป็นชัยภูมิที่เหมาะสมป้องกันการรุกรานจากข้าศึกได้ดีปัจจุบันได้รับการบูรณะซ่อมแซมใช้เวลาก่อสร้างราว 100 ปี จึงเสร็จสมบูรณ์มีพื้นที่ 33,500 ตารางเมตร ตั้งอยู่ระหว่างหุบเขาที่มีความกว้างเพียง 15 เมตร นับเป็นชัยภูมิที่เหมาะสม ป้องกันการรุกรานจากข้าศึกได้ดี จากนั้นนำท่านเดินทางสู่ เมืองจางเย่ “จางเย่” มีความหมายว่า “การขยายดินแดนออกไปไกล” ประหนึ่งยกมือผายออกกว้าง เป็นชื่อที่ถูกตั้งขึ้นมาพร้อมกับเมือง “หวู่เวย” ซึ่งหมายถึง “พลานุภาพอันน่าเกรงขามของจักรพรรดิฮั่นหวู่ตี้” เมืองจางเย่มีขนาดใหญ่และมีความเจริญมากกว่าเมืองหวู่เวย หนึ่งในศูนย์กลางของเมืองจางเย่ตั้งอยู่บนสองฝั่งถนนย่าโอ่วลู่ หรือ ถนนสายเอเชียยุโรป (หรือเส้นทางสายแพรไหม นั่นเอง) ตอนกลางมีอนุสาวรีย์มาร์โค โปโล-นักเดินทางชาว เวนิส ผู้เคยผ่านเมืองนี้ไปยังราชอาณาจักรมองโกล ตั้งตระหง่านอยู่ เมืองจางเย่มีร่องรอยความเรืองรองของพุทธศาสนาที่เคยจำเริญอยู่ ณ เมืองแห่งนี้ ทั้งที่ตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองและในเขตห่างไกลแถบภูเขาฉีเหลียนซานทางทิศใต้ ที่ยังคงบอกเล่าเรื่องราวที่น่าสนใจนักท่องเที่ยวได้ไปเยือนกัน

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านสู่ ภูเขาลายรุ้ง จางเย่ ตันเซี๋ย หรือบ้างเรียก สวนหินแดง อยู่ใกล้หมู่บ้านหนานไท่จื่อ เมืองจางเย่ มณฑลกานซู ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีน นับเป็นหนึ่งในมรดกโลกทางธรรมชาติที่มหัศจรรย์ ดังเนรมิต และยังคงความบริสุทธิของธรรมชาติดั้งเดิม ไม่มีการรุกรานของอารยธรรมมนุษย์รายงานข่าวกล่าวว่า ทุกวันนี้ ทุกส่วนภูมิประเทศต่างๆ ในโลก ล้วนถูกรุกรานจากมนุษย์ไม่มากก็น้อย และประเทศจีน ก็มีพื้นที่ธรรมชาติหลายแห่งที่เสี่ยงต่อการสูญเสียเพราะการพัฒนาฯ ทว่าในแผ่นดินอันกว้างใหญ่ไพศาล จีนก็ยังมีความพยายามที่จะรักษาธรรมชาติเหล่านี้ ให้เป็นมรดกสืบต่อไปยังลูกหลานในอนาคต และ เขาสายรุ้ง จางเย่ ตันเซี๋ย หรือ "อุทยานธรณีวิทยา จางเย่ ตันเซี๋ย" ในมณฑลกานซู่ ก็เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นตามข้อมูลธรณีวิทยาจีน ระบุว่า ประติมากรรมธรรมชาตินี้ ประกอบไปด้วยแนวเขาแต้มสีเป็นลายริ้ว ซึ่งเกิดจากหินทราย และแร่ธรรมชาติ ที่ค่อย ๆ ก่อตัวผ่านการปรับแต่งจากลม ฝน และกาลเวลากว่า 24 ล้านปี ก่อนการเกิดของเผ่าพันธุ์มนุษย์นานนักทั้งนี้ ปัจจุบัน ทิวเขาหลากสีตันเซี่ย นับเป็นลักษณะภูมิประเทศที่เป็นปรากฎการณ์ทางธรรมชาติซึ่งพบได้ในจีนเท่านั้น และปัจจุบัน เป็นแหล่งท่องเที่ยว ที่มีคนจำนวนมาก นิยมไปเที่ยวชม ขณะที่จีนยังมีทิวเขาลักษณะเดียวกับ ตันเซี๋ย ในบริเวณนี้อีก 5 แห่ง และทั้งหมดล้วนได้รับการปกป้องอยู่ในบัญชีมรดกโลก เมื่อปี 2553 รวมเนื้อที่กว่า 450,000 ไร่

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเข้าที่พักโรงแรม

พักที่จางเย่ DUCHEN HOLIDAY HOTEL หรือเทียบเท่า 4*


วันที่ 6 - วัดพระใหญ่จางเย่ – หลานโจว (รถไฟความเร็วสูง) – อนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง - สะพานเหล็กจงซาน

เช้า

บริการอาหารเช้า ที่ โรงแรม หลังอาหาร นำท่านสู่ วัดต้าฝอซื่อ Dafo Si หรือ วัดพระใหญ่ ตั้งอยู่ในเขตตัวเมืองจางเย่ สร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อปีค.ศ.๑๐๙๘ สมัยราชวงศ์ซีเซี่ยปกครองดินแดนทางภาคเหนือของจีน กษัตริย์ในราชวงศ์นี้ศรัทธาในศาสนาพุทธอย่างแรงกล้า ดังจะเห็นได้จากมรดกทางวัฒนธรรมในวัดแห่งนี้ยังคงอนุรักษ์ไว้ได้ดี ปัจจุบันนับเป็นวัดเดียวของราชวงศ์ซีเซี่ยที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในสภาพสมบูรณ์ พระนอนยาวในวิหารที่สร้างขึ้นพร้อมวัด เป็นพระนอนที่สร้างขึ้นด้วยไม้ ภายนอกเป็นดินทาสีฝีมือประณีตงดงาม มีขนาดใหญ่ที่สุดของประเทศจีนและเอเชีย มีความยาว ๓๔.๕ เมตร พระอังสากว้าง ๗.๕ เมตร ประดิษฐานในวิหารไม้ขนาดใหญ่โต กว้าง ๑๑ ห้อง ลึก ๙ ห้อง สูง ๒๐.๒ เมตร พระนอนองค์นี้นอนอยู่ในวิหารไม้แกะสลักทั้งหลังนี้มายาวนานเกือบพันปี

เที่ยง

บริการอาหารกลางวัน ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเดินทางสู่ เมืองหลานโจว หรือ หลันโจว (Lanzhou) เมืองเอกในมณฑลกานซู (Gansu) หลานโจว มีประวัติยาวนานกว่า 2,000 ปี ในอดีตถือเป็นทางผ่านสำคัญของเส้นทางสายไหม ชื่อเดิมคือ “จินเฉิง” (Jincheng) แต่เปลี่ยนเป็นหลานโจวในสมัยราชวงศ์สุย เป็นเมืองอุตสาหกรรมและชุมทางรถไฟ โดยรถไฟความเร็วสูง นำท่านชม หินสลักมารดาแม่น้ำเหลือง หรือหวงเหอหมู่ชิง รูปปั้นนี้เปรียบเสมือนแม่น้ำหวงเหอเป็นมารดาหลักที่หล่อเลี้ยงประชาชนชาวจีนหลายร้อยล้านคนยาวนานกว่า 4,000 ปี ต้นธารแห่งประวัติศาสตร์ชาติจีน จากนั้นชม สะพานเหล็กจงซาน แห่งแรกแม่น้ำเหลือง หรือ สะพานเหล็กจงซาน “หวงเหอตี้อิ๊เฉียว” แปลว่า สะพานแห่งแรกแม่น้ำเหลือง เป็นสะพานข้ามแม่น้ำหวงเหอ แรกสร้างตั้งแต่ราชวงศ์หมิง ปี ค.ศ. 1372 โดยซ่งกั๋วกง(เทียบตำแหน่งเจ้าพระยา) นามเฝิงเสิ้ง อยู่ห่างจากตัวเมืองหลานโจวสมัยนั้น ไปทางทิศตะวันตก เป็นสะพานแบบพาดบนเรือที่ร้อยติดกันด้วยเชือกและโซ่ หรือสะพานแบบลอยน้ำนั่นเอง ต่อมาในปี ค.ศ. 1376 เว่ยกั๋วกง นามเติ้งอวี้ ได้ย้ายตัวสะพานออกไปอีก กลายเป็นห่างจากตัวเมืองหลานโจวไปทางทิศตะวันตก จึงตั้งชื่อสะพานว่า เจิ้นเหวี่ยนเฉียว

ค่ำ

บริการอาหารค่ำ ณ ภัตตาคาร หลังอาหารนำท่านเข้าที่พักโรงแรม

พักที่หลานโจว RUILING INTERNATIONAL HOTEL หรือเทียบเท่า 5*


วันที่ 7 - หลานโจว – เซี่ยงไฮ้ – กรุงเทพฯ

เช้า

บริการอาหารเช้าแบบกล่อง นำท่านเดินทางสู่สนามบิน

07.20

เหินฟ้าสู่มหานครเซี่ยงไฮ้ โดยเที่ยวบินที่ MU719 *บริการอาหารและเครื่องดื่ม

10.15

เดินทางถึงสนามบินเซี่ยงไฮ้ *แวะเปลี่ยนเครื่อง

12.20

เหินฟ้าสู่สนามบินสุวรรณภูมิ โดยเที่ยวบินที่ FM833 *บริการอาหารและเครื่องดื่ม

15.50

เดินทางถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยสวัสดิภาพ


อัตราค่าบริการนี้รวม ( Tour Price Include )

- ค่าตั๋วเครื่องบินระหว่างประเทศ (ชาเตอร์ไฟล์) ชั้นประหยัด

- ค่าภาษีสนามบิน , ภาษีประกันภัยสายการบิน

- ค่าโรงแรมที่พัก

- ค่าอาหารตามรายการ

- ค่าเข้าชมสถานที่ทุกแห่งตามที่ระบุไว้ในรายการ

- ค่ารถโค้ชปรับอากาศตามที่ระบุไว้ในรายการ

- ค่าประกันอุบัติเหตุในวงเงิน 1,000,000 บาท วงเงินรักษาพยาบาลไม่เกิน 500,000 บาท (ตามเงื่อนไขกรมธรรม์)

- ค่าธรรมเนียมวีซ่าจีนแบบเดี่ยวยื่นที่เมืองไทย 4 วันทำการ (เฉพาะพาสปอร์ตไทยเท่านั้น)

*** ค่าน้ำหนักกระเป๋า ท่านละ 20 กิโลกรัม/ ท่าน กรณีที่น้ำหนักเกิน กรุณาชำระค่าใช้จ่ายส่วนน้ำหนักที่เกินเอง ***

อัตราค่าบริการนี้ไม่รวม ( Tour Price Excluded )

- ค่าภาษีมูลค่าเพิ่ม 7% ภาษีหัก ณ ที่จ่าย 3%

- ค่าหนังสือเดินทาง และเอกสารต่างด้าวต่างๆ

- ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่นอกเหนือจากรายการระบุ อาทิเช่น เครื่องดื่ม, ค่าอาหาร, ค่าโทรศัพท์, วีดีโอ

- ทิปเด็กยกกระเป๋าประมาณ 5 หยวนต่อห้อง

- ค่าทิปไกด์ท้องถิ่น , คนขับรถ และหัวหน้าทัวร์ 2,000 บาท/ท่าน ตลอดการเดินทาง

เงื่อนไขการสำรองที่นั่งการชำระเงิน ( Condition of Payment )

- การจอง มัดจำท่านละ 15,000 บาท พร้อมส่งรายชื่อสมาชิกผู้เดินทางให้กับทางบริษัทฯ

- เตรียมเอกสารให้พร้อม เพื่อยื่นขอวีซ่าเข้าประเทศจีน ณ สถานทูตจีน

- ชําระค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือก่อนการเดินทาง อย่างน้อย 15 วัน

เงื่อนไขและข้อกำหนดอื่นๆ ( Other Conditions Restrictions )

-ราคาตั๋วเครื่องบินโปรโมชั่น หากออกตั๋วไปแล้วไม่สามารถยกเลิก หรือเปลี่ยนชื่อผู้เดินทางได้
-ราคาและเวลาเดินทางตามรายการที่กำหนด อาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ขึ้นอยู่กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราและสายการบินกำหนด
-บริษัทเป็นเพียงตัวแทนการท่องเที่ยว สายการบินและตัวแทนการท่องเที่ยวในต่างประเทศซึ่งไม่อาจรับผิดชอบต่อความเสียหายต่างๆที่อยู่เหนือการควบคุมของเจ้าหน้าที่บริษัทฯ อาทิ การนัดหยุดงาน การจลาจล การเปลี่ยนแปลงกำหนดเวลาในตารางบิน ภัยธรรมชาติ หรือค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมที่เกิดขึ้น ทั้งทางตรงหรือทางอ้อม เช่น การเจ็บป่วย การถูกทำร้าย การสูญหาย ความล่าช้าหรือจากอุบัติเหตุต่างๆ
-บริษัทขอสงวนสิทธิ์ เลื่อน, เปลี่ยนแปลง, สับเปลี่ยนรายการได้ตามความเหมาะสม ในกรณีที่มีผู้ร่วมคณะไม่ถึง 15 ท่าน หรือเกิดปัญหาทางการเมืองจนไม่สามารถออกเดินทางได้
-กรุณาอย่านำสิ่งของมีค่าติดตัวหรือนำใส่กระเป๋าเดินทาง มากเกินความจำเป็น หากเกิดการเสียหาย หรือสูญหายระหว่างการเดินทาง กรณีกระเป๋าสัมภาระของท่านได้รับความเสียหายระหว่างโดยสารเครื่องบิน การเรียกร้องค่าชดเชยต่างๆ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของสายการบินที่จะรับผิดชอบ บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียนั้นๆ
-กรณีเกิดโรคระบาด, ภัยธรรมชาติ, สถานการณ์ทางการเมือง, สายการบินยกเลิกเที่ยวบินหรือเหตุสุดวิสัยใดๆ ที่ทำให้มิสามารถเดินทางได้ รวมถึงกรณียื่นวีซ่าแล้ว ทางบริษัทฯ ขอพิจารณาในการคืนค่าใช้จ่ายเป็นกรณีตามที่เห็นสมควร
-หากผู้เดินทางถูกปฏิเสธ เข้า-ออกเมือง ของเจ้าหน้าที่ ต.ม. อันเนื่องมาจากมีสิ่งผิดกฎหมายหรือ เอกสารการเดินทางไม่ถูกต้องหรือการถูกปฏิเสธในกรณีอื่นๆบริษัทฯจะไม่รับผิดชอบใดๆ ทั้งสิ้น
-เมื่อท่านออกเดินทางไปกับคณะแล้ว ท่านงดการใช้บริการรายการใดรายการหนึ่ง หรือไม่เดินทางพร้อมคณะถือว่าท่านสละสิทธิ์ ไม่อาจเรียกค่าบริการ
-โปรแกรมการเดินทางเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสม หรือเปลี่ยนแปลงรายการท่องเที่ยวบางรายการหรือทดแทนรายการท่องเที่ยวบางรายการ
บริษัทฯมีประกันอุบัติเหตุท่านละๆ 1,000,000 บาท
ค่ารักษาพยาบาลจากอุบัติเหตุระหว่างการเดินทาง วงเงิน 500,000 บาท

ข้อมูลการยื่นวีซ่า ( Visa Information )

1. ใช้ พาสปอร์ตตัวจริง + รูปถ่ายสี 2 นิ้ว 2 ใบ
- รูปถ่ายต้องไม่ใส่ชุดข้าราชการ, ชุดรับปริญญา, เสื้อแขนกุด โดยเด็ดขาด, ไม่ใส่เครื่องประดับ
2. กรอกข้อมูลเบื้องต้น (ที่แนบท้ายรายการทัวร์)

สำหรับผู้เดินทางที่เป็นเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี
1. ใช้ พาสปอร์ตตัวจริง + รูปถ่ายสี 2 นิ้ว 2 ใบ
2. สำเนาสูติบัตร (เด็กอายุต่ำกว่า 6 ปี ขอสูติบัตรตัวจริง )
3. สำเนาบัตรประชาชน หรือสำเนาหน้าพาสปอร์ตของบิดาและมารดา
4. หากมีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุล กรุณาแนบเอกสารมาด้วย
5. หากเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี ไม่ได้เดินทางกับพ่อหรือแม่ กรุณาขอหนังสือให้ความยินยอม จากทางเขตหรืออำเภอ พร้อมระบุชื่อของท่านที่พาเด็กเดินทางด้วย
6. กรณีบิดาและมารดาแยกทางกัน ต้องสำเนาทะเบียนหย่าและเอกสารขอดูแลบุตร

สำหรับผู้เดินทางที่เกิดที่ประเทศจีน
1. ใช้ พาสปอร์ตตัวจริง + รูปถ่ายสี 2 นิ้ว 2 ใบ
2. กรอกข้อมูลเบื้องต้น (ที่แนบท้ายรายการทัวร์)
3. หากเป็นพาสปอร์ตเล่มใหม่ แนบพาสปอร์ตเล่มเก่าที่เคยมีวีซ่าจีน
4. หากไม่เคยเดินทางเข้าประเทศจีน แนบพาสปอร์ตจีนเล่มเก่า

มายเหตุ : โปรดทำความเข้าใจว่าสถานทูตจีนอยู่ในระหว่างจัดระเบียบการยื่นวีซ่าใหม่ การเรียกขอเอกสารเพิ่มเติมหรือเปลี่ยนระเบียบการยื่นเอกสาร เป็นเอกสิทธิ์ของสถานทูต และบางครั้งบริษัททัวร์ไม่ทราบล่วงหน้า

อัตราค่าวีซ่าด่วน ที่ต้องจ่ายเพิ่มให้สถานฑูตจีน เมื่อท่านส่งหนังสือเดินทางล่าช้า
- ยื่นวีซ่าด่วน 2 วัน เสียค่าใช้จ่ายเพิ่ม ท่านละ 2,000 บาท

สถานทูตจีนอาจปฏิเสธ ไม่รับเล่มของท่านวีซ่าในกรณีดังนี้คือ
1. ชื่อเป็นชาย แต่ส่งรูปถ่ายที่ดูเป็นหญิง ไว้ผมยาว แต่งหน้า ทาปาก
2. นำรูปเก่าที่ถ่ายไว้เกินกว่า 6 เดือนมาใช้
3. นำรูปถ่ายเล่นๆ มีวิวด้านหลัง ยืนเอียงข้าง ฯลฯ มาตัดใช้ เพื่อยื่นวีซ่า
4. นำรูปที่เป็นกระดาษสติกเกอร์ หรือ รูปที่ใช้กระดาษพรินซ์จากคอมพิวเตอร์

วันที่ 1
กรุงเทพฯ – เซี่ยงไฮ้ – อูรูมูฉี
วันที่ 2
อูรูมูฉี – ทูรูฟาน – เขาเปลวเพลิง – ระบบชลประทานข่านเอ่อจิง – เมืองโบราณเจียวเหอ
วันที่ 3
ทูรูฟาน – ตุนหวง (นั่งรถไฟความเร็วสูง) – เนินทรายหมิงซาซาน (รวมรถอุทยาน) - สระน้ำเสี้ยวพระจันทร์ – ช้อปปิ้งตลาดกลางคืนซาโจว
วันที่ 4
ถ้ำโมเกาคู (รวมรถอุทยาน) – เจียยี่กวน – จิ่วฉวน
วันที่ 5
จิ่วฉวน – กำแพงเมืองจีนด่านเจียยี่กวน – จางเย่ – ภูเขาสายรุ้ง (รวมรถอุทยาน)
วันที่ 6
วัดพระใหญ่จางเย่ – หลานโจว (รถไฟความเร็วสูง) – อนุสาวรีย์มารดาแม่น้ำเหลือง - สะพานเหล็กจงซาน
วันที่ 7
หลานโจว – เซี่ยงไฮ้ – กรุงเทพฯ